ไขมันพอกตับ สัญญาณเริ่มต้น มะเร็งตับ ต้องรีบรักษา
ไขมันพอกตับ หรือ ไขมันเกาะตับ เป็นโรคเรื้อรังที่ตัวอาการอาการของโรคไม่ได้ร้ายแรงอะไร หากแต่มันกลับเป็นโรคที่เป็นต้นตอของ ตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ และที่สำคัญคนไทยกว่า 40% กำลังเป็นไขมันพอกตับอยู่ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว
ไขมันพอกตับ คือ
ขมันพอกตับเป็นภาวะที่เกิดจากการที่ตับดันไปเก็บสะสมไขมันไว้เยอะเกินไป โดยไขมันที่สะสมไว้นั้นจะอยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ มันจะแอบเบียดเสียดแทรกอยู่ที่เนื้อตับ
ซึ่งตับของเราทำหน้าที่ไม่ต่างกับกระปุกออมสิน ที่สะสมไขมันไว้เรื่อย ๆ และเมื่อใดก็ตามที่กระปุกเต็ม หรือ สะสมได้ไขมันไว้มากกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ จากแรกเริ่มเดิมทีมีสีน้ำตาลชมพู กลายร่างมาเป็นตับเหลืองขนาดโต ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของตับ และสร้างความเสียหายไปทั่วร่างกายได้เลย
ไขมันพอกตับ กระทบทั่วร่างกาย
เพราะตับทำหน้าที่เชื่อมโยงกับการทำงานหลายส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การกำจัดสารพิษ การให้พลังงาน การย่อยอาหาร ภูมิคุ้มกันร่างกาย เป็นต้น...
น้ำตาลในเลือดสูง ปล่อยทิ้งไว้ ไขมันพอกตับอาจจะถามหา
จริงอยู่ที่ระดับ
น้ำตาลในเลือดสูงสามารถบ่งบอกถึงโรคเบาหวานได้
แต่อีกนัยหนึ่งก็ยังอาจบอกได้ว่าตับคุณกำลังมีปัญหาจาก โรคไขมันพอกตับ
หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ควบคุมระดับน้ำตาลอาจทำให้ตับได้รับความเสียหาย
จนถึงขั้นเป็นอันตรายร้ายแรงได้เลย
ไขมันพอกตับสัมพันธ์กับเบาหวาน
โรคไขมันพอกตับและโรคเบาหวาน
หรือผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันโดนตรง กล่าวคือ
ผู้ที่เป็นเบาหวานนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นไขมันพอกตับร่วมด้วย
และผู้ที่เป็นไขมันพอกตับ ก็มีโอกาสที่โรคเบาหวานจะมาเยี่ยมเยียนคุณได้สูงเช่นกัน
นั่นเป็นเพราะ ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ
จากโรคเบาหวานทำให้ตับที่มีหน้าที่สะสมพลังงานสำรองไว้มาก
โดยตับจะเปลี่ยนจากน้ำตาลกลูโคส มาเก็บไว้ในรูปของไกลโคเจน
และไตรกลีเซอร์ไรด์(ไขมัน) และทำการสะสมไว้
แต่หากว่าไขมันเหล่านี้ถูกกักเก็บมากเกินไป ก็อาจนำไปสู่
โรคไขมันพอกตับได้ในไม่ช้า หรือกล่าวคือ
หากมีปริมาณน้ำตาลส่วนเกินในร่างกายมากเกินความต้องการ
ตับจะนำไปสร้างเป็นไขมันและเก็บไว้นั่นเอง
อาการไขมันพอกตับ จาก น้ำตาลในเลือดสูง
ตับอักเสบ บาดเจ็บทุกระบบ สร้างผลกระทบทั่วร่างกาย
ตับอักเสบเป็นภาวะที่เกิดการอักเสบเจ็บขึ้นบริเวณตับ เกิดขึ้นได้ทั้งจากการได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ และเกิดได้จากพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีต่อตับ ตับที่เกิดการอักเสบเกิดความเสียหายต่อหลาย ๆ ระบบในร่างกายตามมา อีกทั้งหากปล่อยปะละเลยไม่รีบรักษากอาการอักเสบที่ตับนี้มันอาจจะรุนแรงจนกลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับได้ในท้ายที่สุด
อาการ ตับอักเสบ
ปกติแล้วอาการของตับอักเสบนั้นอาจไม่ได้โหดร้ายรุนแรงอะไรมากนัก
โดยก็จะมี เช่น รู้สึกเหนื่อยง่ายหายช้า ปวดท้องแถบชายโครงขวา อาหารไม่ย่อย
ท้องอืด เป็นไข้ ปวดข้อ เมื่อยตัว บางรายที่เป็นมากอาจมีภาวะดีซ่านตัวเหลือง
ตาเหลือง ปัสสาวะเข้มจัด...
ไวรัสตับอักเสบบี แบบไหนติดต่อ แบบไหนหายห่วง
รู้หรือเปล่าว่า บนโลกใบนี้ มีผู้ที่เป็นพาหะของโรค ไวรัสตับอักเสบบีมากกว่า
350 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยขวานทองของเรานั้นพบว่า มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ที่
6-7 ล้านคนเลยทีเดียว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเดี๋ยวเราก็เห็นคนนู้นเป็น
เดี๋ยวเราก็เห็นคนนี้เป็น ในเมื่ออัตราติดเชื้อมันช่างสูงลิบฟ้าเสียขนาดนี้
แล้วแท้ที่จริงไวรัสตับอักเสบบีนั้นอันตรายหรือเปล่า และแบบไหนที่เป็นแล้วติดต่อ
แล้วแบบไหนหากเป็นแล้วหมดห่วง วันนี้เรามาไขคำตอบกัน
ไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ?
ไวรัสตับอักเสบบีคือ
การที่ตับดันไปได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี(HBV) เข้ามาในร่างกาย
เมื่อไวรัสตัวน้อยนี้พยายามแทรกแทรงเข้ามาทำลายหาตับของเรา
ตับที่น่ารักจะเกิดการอักสบขึ้นมาทันที
ซึ่งข่าวดีคือไวรัสตับอักเสบบีจะไม่ติดต่อทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม
และการจูบกัน แต่จะติดต่อทางเลือดเท่านั้น
(เว้นเสียแต่ว่าน้ำลายอาจจะไปสัมผัสกับเลือดที่อยู่ในปาก)
ไขมันพอกตับ สัญญาณเตือน โรคตับแข็ง และมะเร็งตับ หากไม่รีบรักษา
เคยสงสัยไหมว่า ทั้ง ๆ ที่อัตราคนคนป่วยโรคไวรัสตับอักเสบน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วทำไมตัวเลขของผู้ป่วยโรคตับแข็ง และมะเร็งตับกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเลย คำตอบนั่นก็เป็นเพราะโรคที่มีชื่อเห่ย ๆ ไม่น่าจดจำ อย่าง ไขมันพอกตับ นั่นเอง ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดโรคร้ายอย่างตับแข็งและมะเร็งตับตามมา
กลุ่มเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ
คนที่ดื่มสุรา แอกอฮอล์เป็นประจำ
คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ โรคอ้วน
คนที่มีปัญหาโรคเบาหวาน
คนที่มีระดับน้ำตาลสูงเกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิน 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
“ไขมันพอกตับ เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันที่ตับ”
เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่เรารับประทานไปใช้ได้หมด จนสะสมเพิ่มพูนจนพอกอยู่ที่ตับของเรา มักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณมากเกินไปติดต่อกัน ซึ่งอาหารหลักทั้งของคาวและหวานของคนไทย นั้นก็มักจะมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลักอยู่...
ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับคือ โรคที่มันไขมันเข้าไปแทรกซึมอยู่ในเซลล์ตับมากเกินปกติ หรือประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตับ ส่งผลให้การทำงานของตับแย่ลง ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่สำคัญนั้นมาจาก การที่เรามี ไขมันในเลือดสูงติดต่อกันนานแล้วไม่ได้ควบคุมรักษานั่นเอง
ตับ ต้องสะสมไขมันและนำ้ตาลที่มีมากเกินไป
ไขมันในเลือดสูงอาจเกิดขึ้นจาก การที่เรากินอาหารประเภทไขมัน หรือแป้ง น้ำตาล เข้าไปมากเกินไป โดยตับเรามีหน้าที่ในการสะสมพลังงานที่เหลือใช้จากร่างกาย หากร่างกายของเราได้รับอาหารที่ไม่ดีเข้ามาก ๆ ตับจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงน้ำตาลกลูโคสที่เหลือจากการใช้งาน ให้อยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์(ไขมัน) และไกลโคเจน ก่อนจะกักเก็บพอกพูนไว้ที่ตับ
ดังนั้นเมื่อร่างกายเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูง มีระดับไขมันในเลือดสูง แปลว่าตับต้องนำน้ำตาล และไขมันส่วนเกินเหล่านี้เข้าไปเก็บไว้ที่ตับ จนอาจจะกลายมาเป็นไขมันพอกตับตามมาได้
เบาหวาน เสี่ยงมากกับ ไขมันพอกตับ
จากข้อมูลที่กล่าวไป นั่นจึงเป็นเหตุให้คนที่ป่วยทุกข์ทรมารจากอาการเบาหวาน มีโอกาสที่จะต้องประสบกับไขมันพอกตับสูง เพราะว่า...
ดูแลตับ ให้แข็งแรง เคล็บลับปรับพฤติกรรม และอาหารเสริม
หน้าที่หลัก ๆ
ของตับ คือ เป็นป้อมปราบสารพิษที่แฝงตัวเข้ามาในร่างกาย
ทำงานหนักติดต่อกัน 24 ชั่วโมง แบบไม่ได้หยุดหย่อนพักผ่อนแม้แต่นาทีเดียว
เมื่อการทำงานหนักไปผสมร่วมกับพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ ดูแลตับ ให้ดี
อาจจะทำให้ตับมีปัญหาจากโรคตับต่าง ๆ
ส่งผลต่อหลายระบบในร่างกายได้
แต่สำหรับบางคนนั้นแม้จะไม่ได้เป็นโรคตับโดยตรง
แต่ก็ใช่ว่าตับจะสดชื่นสมบูรณ์ 100%เพราะในแต่ละวัน เราต้องรับมลภาวะ
รับสารอนุมูลอิสระเข้าไปตั้งเท่าไหร่ ทั้งจากฝุ่นละออง ทั้งจากอาหารที่กินเข้าไป
ไหนจะสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายทั้งทางตรงทางอ้อม เพราะฉะนั้นการดูแลตับจึงเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เพียงผู้ป่วยตับมีปัญหาเท่านั้นที่ต้องดูแล
แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ
โดยการ ดูแลตับ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
ตับอักเสบ จุดเริ่มต้นมะเร็งตับ อาการ และการรักษา
หากคุณมีอาการต่อไปนี้มากกว่า 4ข้อ นั่นอาจแปลว่าคุณกำลังเข้าข่ายของ ตับอักเสบ หรือ โรคตับอักเสบ อยู่ จำเป็นต้องรีบรักษา ก่อนที่มันจะพัฒนาไปสู่ตับแข็ง หรือร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งตับ
อาการ ตับอักเสบ
ปวดจุกท้องขวา
หนึ่งในสัญญาณที่ค่อนข้างแน่ชัดว่ากำลังเป็น ตับอักเสบแล้วนั่นคือ การที่คุณรู้สึกปวดจุกท้อง บริเวณใต้ชายโครขวา ซึ่งเป็นที่อยู่ของตับ โดยในบางรายอาจมีอาการตับโตแถบ ๆ ดังกล่าวจนสามารถใช้มือลูบคลำถึงความผิดปกติได้
มีไข้ ไม่สบาย คลื่นไส้ อาเจียน
เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มมีไข้ คลื่นไส้อยากจะอาเจียน เบื่ออาหาร กินอาหารก็ไม่ค่อยจะลง แถมยังมาพร้อมกับสัญญาณ ตับอักเสบอื่น ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ คุณอาจจำเป็นต้องรีบรักษาอย่างโดยด่วน เพราะตับของคุณกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่
อาหารไม่ย่อย ท้องอืด
ตับมีหน้าที่ในการผลิตน้ำดี เพื่อไปช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน แต่หากตับเกิดอักเสบขึ้นมา น้ำดีอาจจะถูกผลิตขึ้นแค่น้อยนิดจิ๊ดเดียว...