admin
ไวรัสตับอักเสบบี แบบไหนติดต่อ แบบไหนหายห่วง
รู้หรือเปล่าว่า บนโลกใบนี้ มีผู้ที่เป็นพาหะของโรค ไวรัสตับอักเสบบีมากกว่า
350 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยขวานทองของเรานั้นพบว่า มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ที่
6-7 ล้านคนเลยทีเดียว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเดี๋ยวเราก็เห็นคนนู้นเป็น
เดี๋ยวเราก็เห็นคนนี้เป็น ในเมื่ออัตราติดเชื้อมันช่างสูงลิบฟ้าเสียขนาดนี้
แล้วแท้ที่จริงไวรัสตับอักเสบบีนั้นอันตรายหรือเปล่า และแบบไหนที่เป็นแล้วติดต่อ
แล้วแบบไหนหากเป็นแล้วหมดห่วง วันนี้เรามาไขคำตอบกัน
ไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ?
ไวรัสตับอักเสบบีคือ
การที่ตับดันไปได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี(HBV) เข้ามาในร่างกาย
เมื่อไวรัสตัวน้อยนี้พยายามแทรกแทรงเข้ามาทำลายหาตับของเรา
ตับที่น่ารักจะเกิดการอักสบขึ้นมาทันที
ซึ่งข่าวดีคือไวรัสตับอักเสบบีจะไม่ติดต่อทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม
และการจูบกัน แต่จะติดต่อทางเลือดเท่านั้น
(เว้นเสียแต่ว่าน้ำลายอาจจะไปสัมผัสกับเลือดที่อยู่ในปาก)
ไขมันพอกตับ สัญญาณเตือน โรคตับแข็ง และมะเร็งตับ หากไม่รีบรักษา
เคยสงสัยไหมว่า ทั้ง ๆ ที่อัตราคนคนป่วยโรคไวรัสตับอักเสบน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วทำไมตัวเลขของผู้ป่วยโรคตับแข็ง และมะเร็งตับกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเลย คำตอบนั่นก็เป็นเพราะโรคที่มีชื่อเห่ย ๆ ไม่น่าจดจำ อย่าง ไขมันพอกตับ นั่นเอง ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดโรคร้ายอย่างตับแข็งและมะเร็งตับตามมา
กลุ่มเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ
คนที่ดื่มสุรา แอกอฮอล์เป็นประจำ
คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ โรคอ้วน
คนที่มีปัญหาโรคเบาหวาน
คนที่มีระดับน้ำตาลสูงเกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิน 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
“ไขมันพอกตับ เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันที่ตับ”
เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่เรารับประทานไปใช้ได้หมด จนสะสมเพิ่มพูนจนพอกอยู่ที่ตับของเรา มักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณมากเกินไปติดต่อกัน ซึ่งอาหารหลักทั้งของคาวและหวานของคนไทย นั้นก็มักจะมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลักอยู่...
ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับคือ โรคที่มันไขมันเข้าไปแทรกซึมอยู่ในเซลล์ตับมากเกินปกติ หรือประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตับ ส่งผลให้การทำงานของตับแย่ลง ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่สำคัญนั้นมาจาก การที่เรามี ไขมันในเลือดสูงติดต่อกันนานแล้วไม่ได้ควบคุมรักษานั่นเอง
ตับ ต้องสะสมไขมันและนำ้ตาลที่มีมากเกินไป
ไขมันในเลือดสูงอาจเกิดขึ้นจาก การที่เรากินอาหารประเภทไขมัน หรือแป้ง น้ำตาล เข้าไปมากเกินไป โดยตับเรามีหน้าที่ในการสะสมพลังงานที่เหลือใช้จากร่างกาย หากร่างกายของเราได้รับอาหารที่ไม่ดีเข้ามาก ๆ ตับจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงน้ำตาลกลูโคสที่เหลือจากการใช้งาน ให้อยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์(ไขมัน) และไกลโคเจน ก่อนจะกักเก็บพอกพูนไว้ที่ตับ
ดังนั้นเมื่อร่างกายเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูง มีระดับไขมันในเลือดสูง แปลว่าตับต้องนำน้ำตาล และไขมันส่วนเกินเหล่านี้เข้าไปเก็บไว้ที่ตับ จนอาจจะกลายมาเป็นไขมันพอกตับตามมาได้
เบาหวาน เสี่ยงมากกับ ไขมันพอกตับ
จากข้อมูลที่กล่าวไป นั่นจึงเป็นเหตุให้คนที่ป่วยทุกข์ทรมารจากอาการเบาหวาน มีโอกาสที่จะต้องประสบกับไขมันพอกตับสูง เพราะว่า...