ไวรัสตับอักเสบบี แบบไหนติดต่อ แบบไหนหายห่วง

0
1443

รู้หรือเปล่าว่า บนโลกใบนี้ มีผู้ที่เป็นพาหะของโรค ไวรัสตับอักเสบบีมากกว่า 350 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยขวานทองของเรานั้นพบว่า มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ที่ 6-7 ล้านคนเลยทีเดียว

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเดี๋ยวเราก็เห็นคนนู้นเป็น เดี๋ยวเราก็เห็นคนนี้เป็น ในเมื่ออัตราติดเชื้อมันช่างสูงลิบฟ้าเสียขนาดนี้ แล้วแท้ที่จริงไวรัสตับอักเสบบีนั้นอันตรายหรือเปล่า และแบบไหนที่เป็นแล้วติดต่อ แล้วแบบไหนหากเป็นแล้วหมดห่วง วันนี้เรามาไขคำตอบกัน 

ไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ?

ไวรัสตับอักเสบบีคือ การที่ตับดันไปได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี(HBV) เข้ามาในร่างกาย เมื่อไวรัสตัวน้อยนี้พยายามแทรกแทรงเข้ามาทำลายหาตับของเรา ตับที่น่ารักจะเกิดการอักสบขึ้นมาทันที  ซึ่งข่าวดีคือไวรัสตับอักเสบบีจะไม่ติดต่อทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม และการจูบกัน แต่จะติดต่อทางเลือดเท่านั้น (เว้นเสียแต่ว่าน้ำลายอาจจะไปสัมผัสกับเลือดที่อยู่ในปาก)

โดยอาการป่วยของไวรัสตับอักเสบบี แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเฉียบพลัน และระยะเรื้อรัง

1. ไวรัสตับอักเสบบี ระยะเฉียบพลัน (ชนิดปลอดภัย สบายใจหายห่วง)

ระยะเฉียบพลันเป็นระยะที่เรียกได้ว่าหายห่วง นั่นเป็นเพราะ ร่างกายของเราจะกำจัดขจัดไวรัสตับอักเสบบีให้ออกไปจากตับให้สิ้นซาก ภายในระยะเวลา 3 เดือน และจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อให้ให้ติดเชื้ออีก ซึ่งคนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่  95 ใน 100 คน จะอยู่ในระยะที่ไม่อันตรายนี้โดยอาการที่พบในระยะเฉียบพลันก็จะมี อาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องชายโครงขวา เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เบื่ออาหาร และอาการจะเริ่มดีขึ้นภายใน 1-4 สัปดาห์เท่านั้น

2. ไวรัสตับอักเสบ บี ระยะเรื้อรัง (ชนิดติดต่อ อาจก่อมะเร็งตับ)

แต่จะมีผู้โชคร้ายอยู่ราว ๆ 5% ของผู้ติดเชื้อเท่านั้น ที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดไวรัสตับอักเสบบีออกไปได้หมด และกลายเป็นแบบเรื้อรัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ป่วยในระยะนี้จะสามารถแพร่กระจายเชื้อต่อได้ เพราะจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะกลายเป็นพาหะ ได้รับมอบหน้าที่ให้ส่งเชื้อต่อไป ส่วนบางคนก็เป็นไวรัสตับอักเสบแบบเรื้อรังเท่านั้น ไม่สามารถถ่ายทอดโรคต่อไปได้

แบบเป็นพาหะคือ กลุ่มของคนที่มีเชื้อร้ายอยู่ในร่างกาย ซึ่งเชื้อมันค่อยข้างขี้อาย และไม่แสดงอาการออกมา แต่เห็นเงียบ ๆ แบบนี้ มันดันแพร่กระจายส่งต่อไวรัสไปยังผู้อื่นได้

แบบเรื้อรังคือ กลุ่มที่มีค่าอักเสบผิดปกติ จะแสดงอาการออกมาอย่างเต็มที่ และเป็นกลุ่มที่ตับถูกทำลายจากการอักเสบอยู่ตลอด และมีโอาสที่ตับของคุณจะกลายร่างสู่ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ หากไม่รักษาอย่างถูกวิธี

ซึ่งการรักษาของไวรัสตับอักเสบบี ระยะเรื้อรัง นั้นจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาต้านไวรัสอยู่ตลอด เพื่อลดการแพร่กระจาย และลดความเสี่ยงที่ตับจะถูกทำลาย

การป้องกันโรค ไวรัสตับอักเสบบี

ปัจจุบันโรคไวรัสตับอักเสบบีแทบเป็นโรคที่ไม่น่าห่วงเท่าไรนัก เพราะเชื้อค่อย ๆ ลดจำนวนลง นั่นก็เพราะเด็กที่เกิดหลังปี พ.ศ.2535 ส่วนใหญ่ล้วนได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อตั้งแต่แรกเกิด ส่วนในผู้ใหญ่ส่วนมากนั้นจะเคยได้รับเชื้อและมีภูมิต้านทานโดยร่างกายแล้ว แต่ทางที่ดีหากพบว่าตัวเองมีอาการป่วย หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรที่จะดูแลตับอย่างถูกวิธีควบคู่กันไปด้วย ดูแลค่าตับไม่ให้อักเสบอยู่ตลอด เพียงเท่านี้เชื้อไวรัสตับอักเสบบีที่ว่าร้ายก็ไม่สามารถทำลายตับของคุณได้แล้ว

อาร์ติโชค (Artihoke)ช่วยลดตับอักเสบ ไวรัสตับอักดสบบี

อาร์ติโชค  (Artichoke) คือพืชที่ได้รับการยกย่องจากหลายๆ สถาบันวิจัยว่าเป็นราชาแห่งการบำรุงตับ มีความสามารถทั้งลดการอักเสบ ป้องกันการอักเสบ ลดไขมันพอกตับ และยังส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับ โดยมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Poznan University of Medical Sciencesมหาวิทยาลัยการแพทย์ในประเทศโปแลนด์ ยืนยันว่า Artichoke มีความสามารถในการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ แถมยังช่วยลดและป้องกันการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมต่าง ๆทั้ง การดื่มแอลกอฮอล์ การกินอาหารประเภทไขมันมาก ๆ การได้รับสารอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีความสามารถในการช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันเลือดไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

LIVPRO อาหารบำรุงตับ จากธรรมชาติ

LIVPROเป็นอาหารเสริมบำรุงตับที่ช่วยลดปัญหาอาการตับอักเสบ ควบคุมการผลิตโดย SERGIS THAILANDที่มีส่วนผสมของ ราชาการบำรุงตับอย่าง อาร์ติโชค (Artichoke) และสุดยอดสมุนไพรบำรุงตับอีกหลายชนิด เช่น Dandelion root, Curcumin, Ginger, Green tea และยังมี Gluta tione จากสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนผสมหลักอีกด้วย มีความสามารถในการบำรุง ฟื้นฟู และช่วยปกป้องตับจากการถูกทำร้าย โดยมีสรรพคุณดังนี้

หากสนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม LIVPRO สำหรับฟื้นฟูดูแลตับ คลิกเลย