เคยสงสัยไหมว่า ทั้ง ๆ ที่อัตราคนคนป่วยโรคไวรัสตับอักเสบน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วทำไมตัวเลขของผู้ป่วยโรคตับแข็ง และมะเร็งตับกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเลย คำตอบนั่นก็เป็นเพราะโรคที่มีชื่อเห่ย ๆ ไม่น่าจดจำ อย่าง ไขมันพอกตับ นั่นเอง ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดโรคร้ายอย่างตับแข็งและมะเร็งตับตามมา
กลุ่มเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ
- คนที่ดื่มสุรา แอกอฮอล์เป็นประจำ
- คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ โรคอ้วน
- คนที่มีปัญหาโรคเบาหวาน
- คนที่มีระดับน้ำตาลสูงเกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิน 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
“ไขมันพอกตับ เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันที่ตับ”
เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่เรารับประทานไปใช้ได้หมด จนสะสมเพิ่มพูนจนพอกอยู่ที่ตับของเรา มักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารพวกแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณมากเกินไปติดต่อกัน ซึ่งอาหารหลักทั้งของคาวและหวานของคนไทย นั้นก็มักจะมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลักอยู่ เมื่อได้รับมาก ๆ ร่างกายใช้ไม่หมด จึงสะสมอยู่ที่ตับในรูปของไขมันนั่นเอง
และยังเกิดได้จากการดื่มสุราเป็นประจำ เพราะเมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายของเรา ตับจะทำการกำจัดมันออกไป ซึ่งจะเกิดกรดไขมันขึ้นมา และเข้ากรดไขมันนี้เองมันจะกลายมาเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์สะสมไว้ที่ตับ ฉะนั้นการดื่มแอลกอฮอล์บ่อยจะยิ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นไขมันพอกตับได้เช่นกัน
“ไขมันพอกตับ ต้นเหตุมะเร็งตับ”
จากสถิติพบว่า คนไทย 4 ใน 10 คน นั้นกำลังใช้ชีวิตเคียงคู่อยู่กับเจ้าโรคไขมันพอกตับอยู่และคนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับมันอยู่ โรคไขมันพอกตับเป็นโรคที่ดูผิวเผินแล้วก็เหมือนกับคนปกติทั่วไป ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง อาการก็อาจจะมีเช่น อ่อนเพลีย เหนื่อนง่าย ไร้เรี่ยวแรง อาหารไม่ย่อย นอนไม่หลับ เป็นต้น มันจึงเป็นเหมือนกับโรคลับ มัจจุราจเงียบที่ไม่แสดงอาการออกมา กว่าจะรู้ตัวไขมันก็ครอบคลุมเนื้อตับไปซะหมดแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานของตับต่ำลง หน้าที่ของตับ ก็เสื่อมถอยลงไป หรืออาจกลายเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าอย่างตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว
“ความน่ากลัวของไขมันพอกตับ”
อย่างที่บอกครับว่าความน่ากลัวของไขมันพอกตับนี้ ไม่ใช่อาการที่แสดงออกมา แต่มันคือการค่อย ๆ ทำลายตับเราแบบช้า ๆ อย่างแนบเนียนใช้เวลานานนับสิบปีกว่าจะมีอาการให้เห็น เมื่อตับเราเก็บไขมันไม่ได้เอาออกมาใช้เยอะเกินไป ทำให้ตับใหญ่ขึ้น ไขมันพอกตับหนาขึ้น ๆ ตับจึงกำจัดเซลล์ไม่ดีที่เต็มไปด้วยไขมันออก แล้วสร้างใหม่ขึ้นมาแทน แต่การที่มีเซลล์ตาย นั้นก็อาจสร้างแผลเป็นให้กับผิวตับได้ เมื่อมีแผลเยอะขึ้นซ้ำ ๆ จากผิวที่เรียบเนียนก็จะกลายเป็นพังผืด นำไปสู่ตับแข็ง และอาจลุกลามร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด
ดังนั้นไขมันพอกตับ จึงเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมหลายคนกลับต้องมาทุกข์ทรมานกับโรคตับแข็ง หรือโชคร้ายที่มะเร็งตับถามหา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับแอลกอฮอล์แม้แต่ยี่ห้อเดียว ทั้ง โรคไวรัสตับเอกเสบก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง
การรักษา ไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการกินอาหารที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย โดยเฉพาะจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน ซึ่งพลังงานส่วนเกินเหล่านี้จะไปเกาะเนื้อตับในที่สุด ซึ่งวิธีป้องกันรักษาก็แสนจะง่าย เพียงแค่ควบคุมปริมาณการกินให้เหมาะสม กินอาหารให้ถูกหลัก และต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอให้ร่างกายดึงพลังงานสำรองที่สะสมไว้ในตับมาใช้ อีกทั้งไขมันพอกตับยังมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทุกครั้งที่ตับ ขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย จะเกิดกรดไขมันขึ้น และกลายมาเป็นไตรกรีเซอไรด์หรือไขมันมาสะสมที่ตับ ดังนั้นการงดเว้นเลิกดื่มสุราก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ไขมันพอกตับหายไปและไม่มายุ่งกับเราอีกด้วย
อาร์ติโชค (Artihoke)ช่วยลด ไขมันพอกตับ
อาร์ติโชค (Artichoke) คือพืชที่ได้รับการยกย่องจากหลายๆ สถาบันวิจัยว่าเป็นราชาแห่งการบำรุงตับ มีความสามารถทั้งลดการอักเสบ ป้องกันการอักเสบ ลดไขมันพอกตับ และยังส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับ โดยมีวิจัยจากมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งชาติโดเนตส์ ประเทศยูเครน ที่ยืนยันว่า การกินอาร์ติโชคบำรุงตับเป็นระยะเวลา 2 เดือน สามารถลดอาการไขมันพอกตับที่ ไม่ได้มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังมีความสามารถในการลดและต้านทานความอักเสบได้เป็นอย่างดี
LIVPRO อาหารบำรุงตับ จากธรรมชาติ
LIVPROเป็นอาหารเสริมบำรุงตับที่ช่วยลดปัญหาอาการตับอักเสบ ควบคุมการผลิตโดย SERGIS THAILANDที่มีส่วนผสมของ ราชาการบำรุงตับอย่าง อาร์ติโชค (Artichoke) และสุดยอดสมุนไพรบำรุงตับอีกหลายชนิด เช่น Dandelion root, Curcumin, Ginger, Green tea และยังมี Gluta tione จากสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนผสมหลักอีกด้วย มีความสามารถในการบำรุง ฟื้นฟู และช่วยปกป้องตับจากการถูกทำร้าย โดยมีสรรพคุณดังนี้
- ลดอาการไขมันพอกตับ
- ลดการอักเสบของตับ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด
- เสริมสร้างการผลิตน้ำดีของตับ
- ปกป้องตับจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้าย
- เสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ
- เสริมสร้างประสิทธิภาพระบบย่อยอาหาร
- ฟื้นฟูตับให้สมบูรณ์