จริงอยู่ที่ระดับ น้ำตาลในเลือดสูงสามารถบ่งบอกถึงโรคเบาหวานได้ แต่อีกนัยหนึ่งก็ยังอาจบอกได้ว่าตับคุณกำลังมีปัญหาจาก โรคไขมันพอกตับ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ควบคุมระดับน้ำตาลอาจทำให้ตับได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นเป็นอันตรายร้ายแรงได้เลย
ไขมันพอกตับสัมพันธ์กับเบาหวาน
โรคไขมันพอกตับและโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันโดนตรง กล่าวคือ ผู้ที่เป็นเบาหวานนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นไขมันพอกตับร่วมด้วย และผู้ที่เป็นไขมันพอกตับ ก็มีโอกาสที่โรคเบาหวานจะมาเยี่ยมเยียนคุณได้สูงเช่นกัน
นั่นเป็นเพราะ ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ จากโรคเบาหวานทำให้ตับที่มีหน้าที่สะสมพลังงานสำรองไว้มาก โดยตับจะเปลี่ยนจากน้ำตาลกลูโคส มาเก็บไว้ในรูปของไกลโคเจน และไตรกลีเซอร์ไรด์(ไขมัน) และทำการสะสมไว้ แต่หากว่าไขมันเหล่านี้ถูกกักเก็บมากเกินไป ก็อาจนำไปสู่ โรคไขมันพอกตับได้ในไม่ช้า หรือกล่าวคือ หากมีปริมาณน้ำตาลส่วนเกินในร่างกายมากเกินความต้องการ ตับจะนำไปสร้างเป็นไขมันและเก็บไว้นั่นเอง
อาการไขมันพอกตับ จาก น้ำตาลในเลือดสูง
ไขมันพอกตับเป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันไว้ที่ตับมากกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับลดต่ำลง กระทบไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การใช้พลังงาน การแปลงสารอาหาร ระบบย่อยอาหาร การสังเคราะห์โปรตีน เป็นต้น
โดยอาการของโรคนั้นอาจไม่ได้โหดร้ายรุนแรงอะไรมาก หรือในบางคนอาจจะไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา อาจจะมีเช่น
- อ่อนเพลียตลอดเวลา นอนไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกง่วง
- เหนื่อยง่าย ทำไรก็นิดหน่อยก็ไม่มีแรงแล้ว
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
- อาจมีอาการปวดจุกท้องแถบ ๆ ชายโครงขวา
- บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียน เบื่ออาหาร
น้ำตาลในเลือดสูง อาจบอกได้ว่า ตับอาจมีปัญหาอยู่แล้ว
หากจะบอกว่าโรคไขมันพอกตับเป็นโรคที่แอบแฝงความชั่วร้ายไว้ลึก ๆ ก็คงไม่ผิดนัก เพราะแม้อาการมันไม่ได้รุนแรง ไม่แสดงอาการจนบางคนแทบไม่รู้ตัวเลยก็มี แต่มันก็แอบทำลายตับไปเรื่อย ๆจนเกิดความเสียหายมากขึ้น ๆ ประสิทธิภาพการทำงานของตับต่ำลงกระทบหลายระบบในร่างกาย
แต่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และ ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สามารถบอกได้ว่าตับของเราอาจจะกำลังมีปัญหากับโรคไขมันพอกตับอยู่ก็ได้
โดยค่าน้ำตาลในเลือด คนปกติควรจะอยู่ที่ ไม่เกิน 100 มก./ดล. หลังอดอาหาร
ส่วนค่าไตรกลีเซอร์ไรด์ คนปกติควรจะอยู่ที่ ไม่เกิน 150 มก./ดล.หลังอดอาหาร
ปล่อยไว้อาจเป็นสาเหตุของตับแข็ง มะเร็งตับ
ความน่ากลัวของโรคไขมันพอกตับที่เกิดขึ้นจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั้นไม่ได้อยู่ที่อาการ หากแต่เป็นอาการและโรคที่อาจจะตามมาต่างหาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่ไขมันพอกตับมากขึ้นเรื่อย ๆ ตับอาจเกิดการอักเสบ และทุกครั้งที่มันอักเสบ มันจะทำลายเซลล์ส่วนนั้นทิ้งไป และทำการงอกเซลล์ตับใหม่ขึ้นมา แต่ในการงอกใหม่นี้มักจะเกิดร่องรอบแผลเป็นไว้
หากไขมันยิ่งพอกมาก ยิ่งอักเสบบ่อย แผลเป็นอาจจะขยายวงกว้าง จากแผลเป็นจุดเล็ก ๆ อาจจะกลายเป็นพังผืดที่ปิดกั้นไม่ให้เลือดไหลเวียนเข้าไปเลี้ยงตับ เกิดเป็น อาการตับแข็งและมะเร็งตับตามมาได้เลย
อีกทั้งมีการศึกษาผู้ป่วยเบาหวาน ว่ามีโอกาสที่จะเสียชีวิตด้วยโรคตับสูง
ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลผู้ป่วยเบาหวาน พบว่า ผู้ป่วยเบาหวาน ที่มีปัญหาระดับน้ำตาลสูง มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคตับ มากว่าคนปกติถึง 70% เลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะเมื่อระดับน้ำตาล หรือกลูโคสที่สูงขึ้น ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ตับทำงานผิดปกติมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
การป้องกัน น้ำตาลในเลือดสูง
การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายนั้นต้องการพลังงานมากกว่าปกติ ร่างกายจึงอาจนำน้ำตาลที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดมาเปลี่ยนเป็นพลังงานและนำมาใช้ อีกทั้งการออกกำลังกายบ่อย ๆ นาน ๆ ยังทำให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมไว้ที่ตับมาใช้เป็นพลังงงานสำรอง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงลดลง และยังช่วยให้อาการไขมันพอกตับดีขึ้นได้
ควบคุมอาหารการควบคุมอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เนื่องจากโดยปกติน้ำตาลและไขมันในเลือดก็สูงอยู่ แล้วการเติมสารอาหารเหล่านี้เข้าไปอาจยิ่งทำให้ระดับมันสูงกว่าเก่า อาการอาจยิ่งแย่ ทางที่ดีควรทานในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์แนะนพ ก็อาจช่วยบรรเทาได้
Artichokeลด น้ำตาลในเลือดสูง
นอกจากนี้แล้วหากอยากเพิ่มประสิทธิภาพการบรรเทาอาการน้ำตาลในเลือดสูง และลดอาการไขมันพอกตับ หรือสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ก็สามารถใช้เวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้ามาช่วยอีกทางหนึ่งได้ โดย Artichokeเป็นพืชที่มีสรรพคุณในการ ปรับลดความดันเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ ให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติและสมดุลได้
อีกทั้ง Artichoke ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ยาบำรุงตับที่ดีที่สุด เพราะมีความสามารถ ทั้ง ลดภาวะไขมันพอกตับ ตับอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่มาของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพสูงในการช่วยป้องกันตับและอวัยวะอื่น ๆ จากอนุมูลอิสระต่าง ๆ ได้เช่นกัน
LIVPRO อาหารบำรุงตับ ลดน้ำตาลในเลือด
LIVPROเป็นอาหารเสริมบำรุงตับและลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมการผลิตโดย SERGIS THAILANDที่มีส่วนผสมจาก อาหารบำรุงตับ 5 ชนิด ได้แก่ Artichoke, Dandelion root, Curcumin, Ginger, Green tea และยังมี Gluta tione จากสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนผสมหลักอีกด้วย มีความสามารถในการบำรุง ฟื้นฟู และช่วยปกป้องตับจากการถูกทำร้าย โดยมีสรรพคุณดังนี้
- ลดอาการไขมันพอกตับ
- ลดการอักเสบของตับ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด
- เสริมสร้างการผลิตน้ำดีของตับ
- ปกป้องตับจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้าย
- เสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ
- เสริมสร้างประสิทธิภาพระบบย่อยอาหาร
- ฟื้นฟูตับให้สมบูรณ์